เกษตรกรหญิงแกร่งเมืองสุพรรณบุรี ปลูกต้นโมกด้วยใจรัก เป็นอาชีพทำเงินมากว่า 20 ปี

ต้นโมก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางมีความสูงประมาณ 2-12 เมตรขึ้นไปเปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาล และจะแตกกิ่งรอบๆ บริเวณลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงกันเป็นคู่ ดอกมีสีขาว และกลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อ ช่อละ 4-8 ดอกคนไทยสมัยก่อนเชื่อกันว่า บ้านไหนที่ปลูกต้นโมกจะทำให้คนในบ้านมีความสุขและปลอดภัยจากอันตราย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า เปลือกของต้นโมกนั้น สามารถใช้ป้องกันพิษของสัตว์ต่างๆช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่บ้านและผู้ที่อยู่อาศัย โดยจะต้องปลูกต้นโมกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบันต้นโมกเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมีการจัดทรงให้เป็นพุ่มสวยงามเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ และสร้างมูลค่าให้กับเกษตรกรได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

คุณสายรุ้ง ปานเพชร เกษตรกรชาวอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ยึดการทำโมกให้เป็นไม้ประดับที่มีทรงสวยงาม เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้ามามากกว่า 20 ปีสามารถเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ ซึ่งก่อนที่จะผันตัวมาทำงานด้านการเกษตรเหมือนเช่นทุกวันนี้ เธอมีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้ามาก่อน ต่อมารู้สึกชอบในเรื่องของไม้ดอกไม้ประดับ จึงได้เริ่มนำไม้ดอกอายุวันสั้นมาเพาะใส่ถุงดำจำหน่ายแต่การเพาะเช่นนี้มีข้อเสียคือ ไม้มีอายุที่สั้นเกินไป เมื่อจำหน่ายออกไม่หมดอาจทำให้ขาดทุนได้ จากนั้นมีโอกาสได้รู้จักกับต้นโมกจึงนำมาทดลองปลูก และจัดทรงให้สวยงามจนทำเป็นอาชีพหลักมาถึงทุกวันนี้

หลักการทำต้นโมกให้ได้ทรงพุ่มที่สวยและมีความสมบูรณ์ของคุณสายรุ้งคือ จะหาซื้อต้นตอโมกจากแหล่งที่มีคนขุดขายนำมาชำให้เกิดรากที่สมบูรณ์ประมาณ 1 เดือน โดยการเลือกต้นตอที่นำมาชำนั้นจะต้องเป็นต้นที่มีกิ่งอย่างน้อย 3 กิ่งขึ้นไปเพราะเวลาที่นำยอดกิ่งพันธุ์ดีเข้ามาเสียบบริเวณยอดจะได้ทรงพุ่มโมกที่สวยเป็นที่ต้องการของลูกค้าเมื่อต้นตอโมกที่นำมาชำมีรากสมบูรณ์ดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนำยอดกิ่งพันธ์ุดีเข้ามาเสียบยอด โดยยอดกิ่งพันธุ์ดีจะมีหลายสายพันธุ์ เช่น โมกเงิน โมกทอง โมกด่าง เป็นต้น หลังจากเสียบยอดกิ่งพันธุ์ดีบนต้นตอแล้ว จะนำถุงพลาสติกมาคลุมยอดไว้พร้อมกับคลุมทับด้วยกระดาษอีกชั้นหนึ่ง ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะมาตรวจสอบว่ายอดที่เสียบติดดีหรือไม่ถ้ายังติดไม่สนิทก็จะทำการเสียบยอดใหม่ ถ้ายอดที่เสียบติดสมบูรณ์ดีแล้ว จะนำถุงพลาสติกและกระดาษที่คลุมไว้ออกหลังจากนั้นก็ดูแลรดน้ำทุกๆ 3 วัน เมื่อทรงยอดเริ่มแตกก็จะทำการตัดแต่งให้สมบูรณ์ พร้อมกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 เข้ามาเสริมบ้าง และดูแลแบบนี้อย่างน้อยประมาณ 6 เดือนขึ้นไปในเรื่องของโรค และแมลงศัตรูพืชที่เข้ามาทำลายต้นโมกคุณสายรุ้ง บอกว่า จะมีมดที่ขึ้นตามกระถางและรากไม้ ซึ่งสามารถกำจัดด้วยการใช้ยากำจัดมด ส่วนแมลงอื่นๆ ที่อาจจะมากัดกินใบก็จะดูตามอาการและกำจัดตามความเหมาะสม

เนื่องจากสวนโมกมีทำเลอยู่ริมถนนเส้นหลักที่มีรถสัญจรตลอดเวลา ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาจึงมองเห็นสวนอยู่ตลอดทำให้ยังสามารถจำหน่ายโมกได้อยู่เรื่อยๆ ยิ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาการซื้อขายออนไลน์ยิ่งมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในทำตลาดเพราะฉะนั้นความจริงใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อลูกค้า โดยราคาของต้นโมกแต่ละต้นจะแตกต่างกันไปตามขนาด ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1,500 บาทต่อกระถาง และราคาสูงสุดจะอยู่ที่ต้นละหลักหมื่นบาทต่อกระถาง

ผู้ที่สนใจศึกษาการปลูกต้นโมก สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
คุณสายรุ้ง ปานเพชร 081-3643982

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของท่าน และเพื่อการมอบบริการที่ดีที่สุดจากเรา กรุณากดปุ่มยอมรับ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานได้ที่ การตั้งค่าคุกกี้ และ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า