บอนสี (Caladium) สมัยก่อนอาจมองดูว่าเป็นไม้ที่ดูแลยาก และระบบการขนส่งที่ค่อนข้างใช้ความระมัดระวัง แต่ด้วยระบบการขนส่งยุคนี้ ทำให้การค้าขายออนไลน์ง่ายขึ้นและค่อนข้างเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้เกษตรกรส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ห่างไกลออกไปหลายจังหวัดต้นไม้ที่สั่งซื้อก็ยังคงสภาพดีไม่เสียหาย
คุณกันตพงศ์ วงษ์ทอง เกษตรกรจากตำบลคำพราน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี จบปริญาตรีสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มีความสนใจการปลูกบอนสีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อเขาโตขึ้นจึงได้ยึดมาทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่ไปกับการทำงานประจำเพื่อสร้างรายได้
คุณกันตพงศ์เล่าว่า สมัยเมื่อเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปลูกเลี้ยงบอนสีเลี้ยงเล่นๆ ตามวัยที่อยากปลูก จากนั้นได้เก็บสะสมพันธุ์ที่ได้ศึกษาจากแหล่งต่างๆ ที่หาได้ ซึ่งระยะนั้นปลูกแบบไม่ได้คิดว่าจะจำหน่ายได้ เพียงแต่คิดว่าชอบและปลูกเพื่อความสวยงามเท่านั้น ต่อมาได้เรียนรู้และพัฒนาพันธุ์มาเรื่อยๆ บอนสีก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงเกิดแนวความคิดทำการตลาดแบบออนไลน์อย่างเต็มตัวมาจนถึงทุกวันนี้
ช่วงแรกก็ปลูกไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดว่าจะทำขายสร้างรายได้ หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยจนเมื่อปี 2561 ก็เริ่มอยากทำเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงิน ต่อมาผมได้เรียนรู้วิธีการผสมพันธุ์หลากหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้วิธีการปลูกและแยกให้ได้บอนสีใหม่ที่มีจำนวนมากขึ้น เราเลยรู้ว่าการพัฒนาพันธุ์อยู่เสมอช่วยให้เกิดลูกไม้ใหม่ๆ และลูกค้าจะไม่เบื่อ ทำให้บอนสีในสวนเราขายได้อย่างต่อเนื่อง คุณกันตพงศ์กล่าว
ขั้นตอนของการขยายพันธุ์บอนสีให้ได้ต้นใหม่ที่มีคุณภาพ คุณกันตพงศ์บอกว่า จะคัดเลือกต้นแม่พันธุ์ที่แข็งแรงมาผสมเกสรกับต้นพ่อพันธุ์ที่มีสีต่างกันออกไป การผสมพันธุ์ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเขาเอง โดยอายุพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสมกับการผสมพันธุ์อยู่ที่อายุ 5-6 เดือนขึ้นไป เมื่อผสมพันธุ์จนเกิดเมล็ด และนำไปปลูกจนได้ต้นใหม่ที่สมบูรณ์จนเกิดหัวใต้ดินแล้ว เมื่อเห็นลูกไม้ใหม่ที่ได้จากการเพาะเมล็ดมีสีสวยแล้ว
ก็จะปลูกจนไม้ได้อายุและมีหัวอยู่ใต้ดิน จากนั้นนำหัวของบอนสีมาผ่าเป็นชิ้นๆ เพื่อนำชิ้นส่วนเหล่านั้นไปเพาะชำ และเกิดเป็นต้นใหม่จำนวนมากต่อไป
“พอเราผ่าหัวเพื่อสร้างเป็นต้นใหม่แล้ว เราจะนำชิ้นส่วนมาเพาะลงวัสดุปลูกจำพวกขุยมะพร้าว ใช้เวลาประมาณ 15 วัน ส่วนที่หั่นก็จะงอกออกมา ปล่อยให้มีอายุ 1 เดือน จึงแยกมาปลูกลงในกระถาง โดยนำมาปลูกลงในกระถาง 4 นิ้ว ใช้วัสดุปลูกที่เป็นดินใบก้ามปู พอไม้เริ่มโตก็ย้ายไปปลูก ลงในกระถาง 6 นิ้ว ต่อไป ซึ่งขั้นตอนการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก นำไม้ใส่ลงในตู้อบพลาสติก โดยให้ภายในตู้อบมีน้ำขังอยู่ที่พื้นกระถางเล็กน้อย ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ดูแลไปอีก 15 วัน หรือ 1 เดือน ไม้ก็จะเริ่มขายได้” คุณกันตพงศ์กล่าว
สำหรับวิธีการป้องกันโรคและแมลงของบอนสี ส่วนมากจะเป็นแมลงศัตรูพืชจำพวกไรแดง สามารถกำจัดได้ด้วยยาที่หาซื้อได้จากร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป ส่วนในเรื่องของความเสียหายจากเชื้อรายังไม่มีให้เห็นในสวนของเขา
การทำตลาดเพื่อจำหน่ายบอนสีภายในสวน คุณกันตพงศ์บอกว่า ตั้งแต่ทำสวนบอนสีมายังไม่เคยต้องนำบอนสีออกไปตระเวนจำหน่าย เขาเน้นสร้างระบบการขายแบบออนไลน์เป็นหลัก เพราะปัจจุบันการขนส่งไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก และเป็นอุปสรรคเหมือนเช่นสมัยก่อน โดยระบบการขนส่งมีการพัฒนามาก เพื่อให้การส่งต้นไม้ไม่เกิดความเสียหาย โดยลูกค้าที่เข้ามาติดต่อขอซื้อบอนสีมีช่วงอายุและวัยที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในเรื่องของการปลูกไม้ประดับมากขึ้น
ซึ่งราคาบอนสีที่จำหน่ายภายในสวนเริ่มต้นที่หลักร้อยบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และชนิดของลูกไม้ จึงทำให้บอนสีแต่ละต้นมีราคาที่แตกต่างกันไป
“ลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบไม้ที่มีสีสันสดๆ ยิ่งช่วงนี้โควิดบอกเลยว่าบอนสีขายดีมาก ทำให้คนขายอย่างเราไม่หยุดที่จะพัฒนาไม้ต่อไป ยิ่งเป็นเรื่องของการพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้มีลูกไม้ใหม่เกิดขึ้นภายในสวน และสามารถทำราคาได้ดี ใครที่อยากจะปลูกเลี้ยงบอนสี อยากแนะนำให้มีใจรักก่อน จากนั้นเรียนรู้เพิ่มเติมในแต่ละขั้นตอนไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดความชำนาญ และบอนสีจะสร้างรายได้ให้กับเราได้เป็นอย่างดี” คุณกันตพงศ์กล่าว
สนใจเรื่องการปลูกบอนสี สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณกันตพงศ์ วงษ์ทอง (092) 398-1158
